อย่างที่บอกคือ YaST มันเป็น ตัวจัดการระบบทุกอย่าง เพราะ ฉะนั้น เราก็ต้อง ใช้ ให้ เป็น ประโยชน์
ไปที่ Kickoff -- Computer -- Administrator Setting
ไปที่ System -- /etc/sysconfig Editor จะ พบกัน หน้าจอการเซ็ตค่าต่างๆ มากมาย
ให้ เราเลือกไปที่ System -- Environment -- Language
ใน ช่อง RC_LANG และ ช่องที่ขึ้นต้นด้วย RC_LC_ และ ช่อง INSTALLED_LANGUAGES ทุกช่องที่กล่าวมาให้ ใส่ ค่า th_TH.UTF-8 ใน ช่อง setting ทางขวา
เสร็จแล้ว กด Finish
เสร็จแล้ว รีบูตหนึ่งครั้ง เป็น อันเสร็จพิธีครับ
21 ธันวาคม 2549
Thai UI for KDE
เมื่อติดตั้งเรียบร้อยเราก็จะ ต้อง เปลี่ยนหน้าตาให้ มีภาษาไทยกัน ก่อนนะครับ ไปที่
Kickoff -- Favourite --Configure Desktop
เลือก Regional & Accessibility -- Country/Region & Language
Country or Region เลือกเป็น Asia south-east -- Thailand
คลิกที่ Keyboard layout อยู่ ทางขวา
ติ๊กที่ Enable keyboard layout เพิ่ม thailand เข้า ไป กด Apply
คลิกที่ Keyboard shortcut
เลื่อนลงมาจนถึง ล่างสุด คลิกที่ switch to next keyboard layout
shortcut for select action จะ มี Default เป็น Alt+Ctrl+K ให้ เราเปลี่ยนเป็น F11
Kickoff -- Favourite --Configure Desktop
เลือก Regional & Accessibility -- Country/Region & Language
Country or Region เลือกเป็น Asia south-east -- Thailand
คลิกที่ Keyboard layout อยู่ ทางขวา
ติ๊กที่ Enable keyboard layout เพิ่ม thailand เข้า ไป กด Apply
คลิกที่ Keyboard shortcut
เลื่อนลงมาจนถึง ล่างสุด คลิกที่ switch to next keyboard layout
shortcut for select action จะ มี Default เป็น Alt+Ctrl+K ให้ เราเปลี่ยนเป็น F11
kde-l10n-th & Amarok thai by Dr.Rider
ทีนี้เรื่องการเซ็ตภาษาไทยกัน ครับ
คือผมยัง ไม่ เก่งพอที่จะ ทำให้ YaST เป็น ภาษาไทย เอาเป็น ให้ KDE มี UI เป็น ภาษาไทยก่อนครับ
สิ่งที่ต้อง มี
kde-i18n โหลดที่นี่ http://linux.thai.net/apt/kde-i18n-th/kde-i18n-th_3.5svn-1.tar.gz
kde-l10n (Dr.Rider) โหลดที่นี่ http://www.thaitux.info/~drrider/kde/kde-l10n-th.tar.bz2
amarok.mo (Dr.Rider) โหลดที่นี่ http://www.thaitux.info/~drrider/kde/amarok.mo
เริ่มกัน ดีกว่า
สร้างโฟลเดอร์ setthai ขึ้นมาก่อนครับ
ขั้นแรกแตกไฟล์ที่โหลดมาทั้ง หมด คลิกที่ไฟล์ได้ เลยครับ แล้ว เลือก location ให้ มาไว้ ที่ /home/*username*/setthai/
ต่อมาเข้า ไปใน โฟลเดอร์ kde-i18n-th ก่อนครับ
แล้ว คลิกขวาตรงที่ว่างๆ เลือก Actions -- Open terminal here เพื่อเปิด Konsole ขึ้นมา
เสร็จแล้ว สั่ง su ใส่ พาสเวิด root
สั่ง ./configure
ตามด้วย make
และ make install
เสร็จแล้ว พิมพ์ konqueror
ที่ช่อง Location พิมพ์ /opt/kde3/share/locale/th/LC_MESSAGES กด enter
เปิดแท๊บใหม่ (Ctrl+Shift+N) พิมพ์ /home/*your user name*/setthai/kde-l10n-th/
ก๊อปปี้ไฟล์ทั้ง หมดไปวางไว้ ที่ /opt/kde3/share/locale/th/LC_MESSAGES แล้ว ก็ก๊อปปี้ไฟล์ amarok.mo มาวางไว้ แทนที่ของเดิมด้วย ครับ
คือผมยัง ไม่ เก่งพอที่จะ ทำให้ YaST เป็น ภาษาไทย เอาเป็น ให้ KDE มี UI เป็น ภาษาไทยก่อนครับ
สิ่งที่ต้อง มี
kde-i18n โหลดที่นี่ http://linux.thai.net/apt/kde-i18n-th/kde-i18n-th_3.5svn-1.tar.gz
kde-l10n (Dr.Rider) โหลดที่นี่ http://www.thaitux.info/~drrider/kde/kde-l10n-th.tar.bz2
amarok.mo (Dr.Rider) โหลดที่นี่ http://www.thaitux.info/~drrider/kde/amarok.mo
เริ่มกัน ดีกว่า
สร้างโฟลเดอร์ setthai ขึ้นมาก่อนครับ
ขั้นแรกแตกไฟล์ที่โหลดมาทั้ง หมด คลิกที่ไฟล์ได้ เลยครับ แล้ว เลือก location ให้ มาไว้ ที่ /home/*username*/setthai/
ต่อมาเข้า ไปใน โฟลเดอร์ kde-i18n-th ก่อนครับ
แล้ว คลิกขวาตรงที่ว่างๆ เลือก Actions -- Open terminal here เพื่อเปิด Konsole ขึ้นมา
เสร็จแล้ว สั่ง su ใส่ พาสเวิด root
สั่ง ./configure
ตามด้วย make
และ make install
เสร็จแล้ว พิมพ์ konqueror
ที่ช่อง Location พิมพ์ /opt/kde3/share/locale/th/LC_MESSAGES กด enter
เปิดแท๊บใหม่ (Ctrl+Shift+N) พิมพ์ /home/*your user name*/setthai/kde-l10n-th/
ก๊อปปี้ไฟล์ทั้ง หมดไปวางไว้ ที่ /opt/kde3/share/locale/th/LC_MESSAGES แล้ว ก็ก๊อปปี้ไฟล์ amarok.mo มาวางไว้ แทนที่ของเดิมด้วย ครับ
ติดตั้งฟอนต์ไทย และ Libthai
สิ่งที่ต้อง มี
libthai http://ftp.opentle.org/people/mrchoke/suse/RPMS/libthai-0.1.5-1.i586.rpm
fonts thai http://www.upload.th.md/download.php?id=CDFD0180
เมื่อดาวน์โหลดมาเรียบร้อยแล้ว ก็เปิด konsole ขึ้นมา
su แล้ว ใส่ พาสเวิด root แล้ว สั่ง rpm -ivh libthai-0.1.5-1.i586.rpm
เสร็จแล้ว ครับ
ต่อไปก็ติดตั้งฟอนต์ภาษาไทยกัน ครับ
แตกไฟล์ออกมาไว้ ที่ โพลเดอร์ home ของเราก่อน แล้ว ไปที่
Kickoff -- Favourite --Configure Desktop
ไปที่ การดูแลระบบ -- ติดตั้งแบบอักษร --- คลิกที่ เพิ่มแบบอักษรใหม่ แล้ว ก็เลือกไปที่โฟลเดอร์ที่เราแตกไว้ เมื่อกี้ เลือกทั้ง หมดแล้ว คลิก เปิด
กด Ctrl+Alt+backspace แล้ว ล๊อกอินเข้ามาใหม่
หลังจาก นั้น เข้า ไปที่
Kickoff -- Favourite -- Configure Desktop -- รูปแบบและ ชุดตกแต่ง
เลือกที่ แบบอักษร -- ปรับแบบอักษรทุกส่วน -- เลือกเป็น Loma -- คลิกที่ มีผลทันที
เสร็จแล้ว ครับ ไม่ เข้า ใจตรงไหนถามได้ ครับ เผื่อผมเขียนหล่นไป
libthai http://ftp.opentle.org/people/mrchoke/suse/RPMS/libthai-0.1.5-1.i586.rpm
fonts thai http://www.upload.th.md/download.php?id=CDFD0180
เมื่อดาวน์โหลดมาเรียบร้อยแล้ว ก็เปิด konsole ขึ้นมา
su แล้ว ใส่ พาสเวิด root แล้ว สั่ง rpm -ivh libthai-0.1.5-1.i586.rpm
เสร็จแล้ว ครับ
ต่อไปก็ติดตั้งฟอนต์ภาษาไทยกัน ครับ
แตกไฟล์ออกมาไว้ ที่ โพลเดอร์ home ของเราก่อน แล้ว ไปที่
Kickoff -- Favourite --Configure Desktop
ไปที่ การดูแลระบบ -- ติดตั้งแบบอักษร --- คลิกที่ เพิ่มแบบอักษรใหม่ แล้ว ก็เลือกไปที่โฟลเดอร์ที่เราแตกไว้ เมื่อกี้ เลือกทั้ง หมดแล้ว คลิก เปิด
กด Ctrl+Alt+backspace แล้ว ล๊อกอินเข้ามาใหม่
หลังจาก นั้น เข้า ไปที่
Kickoff -- Favourite -- Configure Desktop -- รูปแบบและ ชุดตกแต่ง
เลือกที่ แบบอักษร -- ปรับแบบอักษรทุกส่วน -- เลือกเป็น Loma -- คลิกที่ มีผลทันที
เสร็จแล้ว ครับ ไม่ เข้า ใจตรงไหนถามได้ ครับ เผื่อผมเขียนหล่นไป
Broadcom BCM4318 with Ndiswrapper
openSUSE นั้นใช้เคอร์เนล 2.6.18.2-34-default ซึ่งมีไดร์เวอร์ไวร์เลส bcm43xx มาให้แล้ว แต่ผมลองดูแล้วปรากฏว่าไม่เวิร์คครับ ไวร์เลสติด มีแสง แต่สแกนหาเน็ตเวิร์คไม่เจอ - -"
จึงต้องกลับมาใช้บริการ Ndiswrapper เช่นเดิม
มาเริ่มกัน
ติดตั้ง ndiswrapper กันก่อน
1. เปิด YaST ขึ้นมา เลือกที่ software managment
2. search ndiswrapper แล้วติ๊กที่ ndiswrapper กับ ndiswrapper-kmp-default เสร็จแล้วคลิก accept แล้วก็รอจนติดตั้งแพ็กเกจเสร็จเรียบร้อย และตอบ NO
ติดตั้งไดร์เวอร์
1. ก๊อปปี้ไฟล์ bcmwl5.inf จาก swsetup ในไดร์ C มาก่อน หรือถ้าไม่มีก็ไปดาวน์โหลดที่ ftp://ftp.support.acer-euro.com/notebook/aspire_3020_5020/driver/80211g.zip
2. หลังจากนั้นเปิดเทอร์มินัลขึ้นมา สั่ง su ตามด้วยพาสเวิดรูท
3. สั่ง rmmod bcm43xx เพื่อเอาไดร์เวอร์ตัวเก่าที่ไม่เวิร์คออก
4. สั่ง ndiswrapper -i bcmwl5.inf, ndiswrapper -l, ndiswrapper -m, depmod -a, modprobe ndiswrapper ตามลำดับ ถ้าติดตั้งถูกต้องไฟไวร์เลสจะติดขึ้นมา
5. หลังจากนั้นมันก็จะเป็นหน้าที่ของ knetworkmanager ที่จะสแกนเน็ตเวิร์ค และ connect ให้อัตโนมัติ
บางคนอาจจะให้ ndiswrapper โหลดตอนบูตเลย แต่ผมเลือกที่จะ modprobe เองทีหลังมากกว่าเพื่อจะได้ประหยัดพลังงานโน๊ตบุ๊คด้วยครับ
วิธีการ modprobe module ndiswrapper นะครับ
rmmod bcm43xx
modprobe ndiswrapper
วิธีการสแกนเน็ตเวิร์กบนเทอร์มินัล
iwlist eth1 scan
วิธีการ connect เน็ตเวิร์กบนเทอร์มินัล
iwconfig eth1 mode ad-hoc(สำหรับเน็ตเวิร์กแบบ Peer to peer), iwconfig eth1 mode manged
iwconfig eth1 essid ESSID "ESSID เวลาใช้ให้ใส่แทนด้วยชื่อของ essid ที่เราสแกนได้ เช่น essid คือ net เราก็จะสั่งว่า iwconfig eth1 essid net"
dhclient eth1
เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ
knetworkmanager ตัวใหม่นี้ถือว่าทำงานได้เยี่ยมมาก เพราะสามารถ connect กับเน็ตเวิร์กที่เป็น ad-hoc ได้ด้วย ซึ่งตอนที่เป็น 10.1 ยังทำไม่ได้
จึงต้องกลับมาใช้บริการ Ndiswrapper เช่นเดิม
มาเริ่มกัน
ติดตั้ง ndiswrapper กันก่อน
1. เปิด YaST ขึ้นมา เลือกที่ software managment
2. search ndiswrapper แล้วติ๊กที่ ndiswrapper กับ ndiswrapper-kmp-default เสร็จแล้วคลิก accept แล้วก็รอจนติดตั้งแพ็กเกจเสร็จเรียบร้อย และตอบ NO
ติดตั้งไดร์เวอร์
1. ก๊อปปี้ไฟล์ bcmwl5.inf จาก swsetup ในไดร์ C มาก่อน หรือถ้าไม่มีก็ไปดาวน์โหลดที่ ftp://ftp.support.acer-euro.com/notebook/aspire_3020_5020/driver/80211g.zip
2. หลังจากนั้นเปิดเทอร์มินัลขึ้นมา สั่ง su ตามด้วยพาสเวิดรูท
3. สั่ง rmmod bcm43xx เพื่อเอาไดร์เวอร์ตัวเก่าที่ไม่เวิร์คออก
4. สั่ง ndiswrapper -i bcmwl5.inf, ndiswrapper -l, ndiswrapper -m, depmod -a, modprobe ndiswrapper ตามลำดับ ถ้าติดตั้งถูกต้องไฟไวร์เลสจะติดขึ้นมา
5. หลังจากนั้นมันก็จะเป็นหน้าที่ของ knetworkmanager ที่จะสแกนเน็ตเวิร์ค และ connect ให้อัตโนมัติ
บางคนอาจจะให้ ndiswrapper โหลดตอนบูตเลย แต่ผมเลือกที่จะ modprobe เองทีหลังมากกว่าเพื่อจะได้ประหยัดพลังงานโน๊ตบุ๊คด้วยครับ
วิธีการ modprobe module ndiswrapper นะครับ
rmmod bcm43xx
modprobe ndiswrapper
วิธีการสแกนเน็ตเวิร์กบนเทอร์มินัล
iwlist eth1 scan
วิธีการ connect เน็ตเวิร์กบนเทอร์มินัล
iwconfig eth1 mode ad-hoc(สำหรับเน็ตเวิร์กแบบ Peer to peer), iwconfig eth1 mode manged
iwconfig eth1 essid ESSID "ESSID เวลาใช้ให้ใส่แทนด้วยชื่อของ essid ที่เราสแกนได้ เช่น essid คือ net เราก็จะสั่งว่า iwconfig eth1 essid net"
dhclient eth1
เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ
knetworkmanager ตัวใหม่นี้ถือว่าทำงานได้เยี่ยมมาก เพราะสามารถ connect กับเน็ตเวิร์กที่เป็น ad-hoc ได้ด้วย ซึ่งตอนที่เป็น 10.1 ยังทำไม่ได้
ATI driver เซ็ตอย่างไรหนอ
ก่อนอื่นก็ต้องไปโหลดมาจากเว็บนี้ http://ati.amd.com/support/driver.html เลือกให้ตรงกับรุ่นของเรา อันนี้ของผม https://a248.e.akamai.net/f/674/9206/0/www2.ati.com/drivers/linux/ati-driver-installer-8.32.5-x86.x86_64.run
มาเริ่มกันดีกว่าครับ
1. สมมุติว่าเราโหลดไดร์เวอร์อันนี้มาไว้ที่ /home/username/ATI/ นะครับ เราก็เข้าไปในโฟลเดอร์นั้นแล้วคลิกขวาที่พื้นที่ว่าง เลือก actions -- open terminal here เทอร์มินัลก็จะปรากฏขึ้นมา
2. พิมพ์คำสั่ง su แล้วใส่พาสเวิด root
3. หลังจากนั้นพิมพ์คำสั่ง chmod +x ati-driver-installer-8.32.5-x86.x86_64.run
4. พิมพ์ ./ati-driver-installer-8.32.5-x86.x86_64.run --buildpkg SuSE/SUSE102-IA32
5. แล้วก็รอจนกระทั่งได้แพ็กเกจที่ชื่อว่า fglrx_7_1_0_SUSE102-8.32.5-1.i386.rpm
ุ6. เสร็จแล้วสั่ง rpm -ivh fglrx_7_1_0_SUSE102-8.32.5-1.i386.rpm
7. ตามด้วย aticonfig --initial
8. และ sax2 -r -m 0=fglrx (หรือถ้าไม่ได้ลองสั่ง sax -r -m 0=fglrx) จะปรากฏหน้าจอการเซ็ตค่าเกี่ยวกับจอ เมาส์ ฯลฯ
9. ติ๊กถูกที่ Activate dual head mode คลิกที่ configure เซ็ตเหมือนในภาพ แล้วกด ok ตามด้วย ok และ save สุดท้าย yes
10. รีบูตหนึ่งครั้งเป็นอันเสร็จพิธี
มาเริ่มกันดีกว่าครับ
1. สมมุติว่าเราโหลดไดร์เวอร์อันนี้มาไว้ที่ /home/username/ATI/ นะครับ เราก็เข้าไปในโฟลเดอร์นั้นแล้วคลิกขวาที่พื้นที่ว่าง เลือก actions -- open terminal here เทอร์มินัลก็จะปรากฏขึ้นมา
2. พิมพ์คำสั่ง su แล้วใส่พาสเวิด root
3. หลังจากนั้นพิมพ์คำสั่ง chmod +x ati-driver-installer-8.32.5-x86.x86_64.run
4. พิมพ์ ./ati-driver-installer-8.32.5-x86.x86_64.run --buildpkg SuSE/SUSE102-IA32
5. แล้วก็รอจนกระทั่งได้แพ็กเกจที่ชื่อว่า fglrx_7_1_0_SUSE102-8.32.5-1.i386.rpm
ุ6. เสร็จแล้วสั่ง rpm -ivh fglrx_7_1_0_SUSE102-8.32.5-1.i386.rpm
7. ตามด้วย aticonfig --initial
8. และ sax2 -r -m 0=fglrx (หรือถ้าไม่ได้ลองสั่ง sax -r -m 0=fglrx) จะปรากฏหน้าจอการเซ็ตค่าเกี่ยวกับจอ เมาส์ ฯลฯ
9. ติ๊กถูกที่ Activate dual head mode คลิกที่ configure เซ็ตเหมือนในภาพ แล้วกด ok ตามด้วย ok และ save สุดท้าย yes
10. รีบูตหนึ่งครั้งเป็นอันเสร็จพิธี
Additional YaST Repositories
ก่อนที่จะทำการติดตั้งโปรแกรมและไดร์เวอร์อื่นๆ เราก็ต้องเพิ่ม installation source ให้กับ YaST กันก่อนครับ
Additional YaST Repositories
YaST เป็นศูนย์รวมการควบคุมต่างๆ ของลินุกซ์ซูซี่ มีทั้งเกี่ยวกับ ฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ เน็ตเวิร์ค ฯลฯ ว่าง่ายๆ คือ รวมทุกอย่างเกี่ยวกับปรับแต่งระบบนั่นเอง
Start YaST
เลือกที่ Installation Source
Click ที่ Add
เลือก Http
ใส่ server name และ directory
จะเริ่มดาวน์โหลดข้อมูลที่จำเป็นมาให้อัตโนมัติ อาจจะนานซักหน่อย(บางทีเป็นชั่วโมง) ใจเย็นๆครับ
เสร็จแล้วคลิก Finish จะมีหน้าจอเป็นดังนี้
ใส่ซอร์สดังนี้ครับ
สองอันนี้ถ้าใครโหลดเป็น DVD มาก็ไม่ต้องใส่นะครับ
##OSS
Type - rpm-md/repomd
Protocol - HTTP
Server name - download.opensuse.org
Directories - distribution/10.2/repo/oss/
##NONOSS
Type - rpm-md/repomd
Protocol - HTTP
Server name - download.opensuse.org
Directories - distribution/10.2/repo/non-oss/
เปิด Konsole ขึ้นมาก่อนแล้วสั่ง su แล้วก็ใส่พาสเวิดของ root ตามด้วยพิมพ์คำสั่งดังนี้
rpm --import http://packman.unixheads.com/suse/10.2/gpg-pubkey-1abd1afb.asc
rpm --import http://linux01.gwdg.de/~pbleser/guru-rpm.asc
แล้วก็เพิ่ม YaST source ข้างล่างต่อครับ
PACKMAN
Type - rpm-md/repomd
Protocol - HTTP
Server name - packman.unixheads.com
Directories - suse/10.2/
GuRu
Type - rpm-md/repomd
Protocol - HTTP
Server name - ftp.gwdg.de
Directories - pub/linux/misc/suser-guru/rpm/10.2/
เสร็จแล้วลงแพ็กเกจดังนี้ก่อนครับ
* gcc
* make
* kernel-source
* kernel-syms
* kdeadmin3
* compat-expat1
* expat
ประมาณนั้น
Additional YaST Repositories
YaST เป็นศูนย์รวมการควบคุมต่างๆ ของลินุกซ์ซูซี่ มีทั้งเกี่ยวกับ ฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ เน็ตเวิร์ค ฯลฯ ว่าง่ายๆ คือ รวมทุกอย่างเกี่ยวกับปรับแต่งระบบนั่นเอง
Start YaST
เลือกที่ Installation Source
Click ที่ Add
เลือก Http
ใส่ server name และ directory
จะเริ่มดาวน์โหลดข้อมูลที่จำเป็นมาให้อัตโนมัติ อาจจะนานซักหน่อย(บางทีเป็นชั่วโมง) ใจเย็นๆครับ
เสร็จแล้วคลิก Finish จะมีหน้าจอเป็นดังนี้
ใส่ซอร์สดังนี้ครับ
สองอันนี้ถ้าใครโหลดเป็น DVD มาก็ไม่ต้องใส่นะครับ
##OSS
Type - rpm-md/repomd
Protocol - HTTP
Server name - download.opensuse.org
Directories - distribution/10.2/repo/oss/
##NONOSS
Type - rpm-md/repomd
Protocol - HTTP
Server name - download.opensuse.org
Directories - distribution/10.2/repo/non-oss/
เปิด Konsole ขึ้นมาก่อนแล้วสั่ง su แล้วก็ใส่พาสเวิดของ root ตามด้วยพิมพ์คำสั่งดังนี้
rpm --import http://packman.unixheads.com/suse/10.2/gpg-pubkey-1abd1afb.asc
rpm --import http://linux01.gwdg.de/~pbleser/guru-rpm.asc
แล้วก็เพิ่ม YaST source ข้างล่างต่อครับ
PACKMAN
Type - rpm-md/repomd
Protocol - HTTP
Server name - packman.unixheads.com
Directories - suse/10.2/
GuRu
Type - rpm-md/repomd
Protocol - HTTP
Server name - ftp.gwdg.de
Directories - pub/linux/misc/suser-guru/rpm/10.2/
เสร็จแล้วลงแพ็กเกจดังนี้ก่อนครับ
* gcc
* make
* kernel-source
* kernel-syms
* kdeadmin3
* compat-expat1
* expat
ประมาณนั้น
Installation openSUSE 10.2
SYSTEM
อันนี้เป็นเครื่องของผมเองนะครับNotebook Compaq Presario M2223AP (อย่างแรงครับ NFS Carbon ได้)
AMD Mobile Sempron 3000+ (1.8 Ghz 128 L2 cache)
640 MB ram
ATI Radeon xpress 200M 5955 (PCIE)
Broadcom Wireless BCM4318 Airforce One 54g
5 in 1 Media card reader
60 GB Harddisk ATA 4200 RPM
* hda1: 9.7 GB Windows XP partition
* hda5: 11 GB Fat32
* hda7: 6.3 GB /
* hda6: 1.2 GB swap
* hda8: 20 GB /Data
* hda9: 5.7 GB Ubuntu 6.06.1 LTS
OS openSUSE 10.2
Installation
โหลด มาแค่สามแผ่นแรกก็ได้นะครับ สำหรับการติดตั้งเฉพาะเดสทอป KDE หรือ GNOME แต่ตอนติดตั้งต้องไม่เลือกแพ็กเกจเพิ่มนะครับ ส่่วนแพ็กเกจอื่นๆ เราค่อยลงทางเน็ตเอาครับ
ใส่แผ่นแล้วให้เครื่องบูตจากแผ่นครับ เลือก installation
หน้าจอขณะบูตเครื่อง
เลือกภาษาครับ ให้เลือกภาษาอังกฤษ เพราะไม่มีภาษาไทยให้้เลือก
เช็คซีดีรอม หรือดีวีดีรอมว่ามีปัญหาหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดขณะติดตั้ง
หน้าจอไลเซนส์ ให้เลือกตามในรูป
Installation mode ให้เลือกเป็น New installation
Time Zone เลือก Asia Bangkok Hardware clock set to เลือก Local
เลือกว่าจะเอา Gnome หรือ KDE ผมเลือกเป็น KDE
ถ้าไม่ชอบใจพาร์ทิชั่นสามารถเปลี่ยนได้ครับ
มันกำลังจะฟอร์แมตฮาร์ดดิสเราแล้วครับ เลือก Install
เข้าสู่การติดตั้งแล้วครับ เราก็แค่รอเท่านั้น
ใส่พาสเวิดของ root ใส่แล้วต้องจำให้ได้นะ
อันนี้โฮสเนมกับโดเมนเนม จะใส่ชื่ออะไรก็แล้วแต่คุณ
คอนฟิกเกี่ยวกับเน็ตเวิร์ค
ตรงนี้ใ้ห้เลือก NO นะครับ
อันนี้ก็ NO ไปก่อนครับ ค่อยอัพเดทตอนลงเสร็จแล้วดีกว่า
กด Next ไปเลยครับ
ใส่ข้อมูลของเรา เสร็จแล้วก็กด Next
กด Next ไปเลยครับ
ตรงนี้ก็ไม่ต้องทำอะไร กด Next ผ่านไปเลย เพราะยังไม่ได้ลงไดร์เวอร์ของการ์ดจอ ไม่ต้องทำอะไร
เสร็จแล้วครับ กด Finish ได้เลย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)